หน่วยการเรียนรู้ภาษาไทย

วันจันทร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2555

ทุกข์ของชาวนาในบทกวี

ทุกข์ของชาวนาในบทกวี
          ทุกข์ของชาวนาในบทกวี  เป็นบทความพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี  ที่แสดงให้เห็นถึงการเอาพระทัยใส่ความเข้าพระทัยในปัญหาต่าง ๆ ตลอดจนพระเมตตาของพระองค์ที่ทรงมีต่อชาวนา  เนื่องด้วยชาวนาแต่ละท้องที่ล้วนมีสภาพชีวิตและความทุกข์ยากที่ไม่แตกต่างกันเลย  แม้ว่ากาลเวลาจะผันผ่านไปอย่างไรก็ตาม
ผู้แต่ง
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี 
ลักษณะคำประพันธ์
ร้อยแก้ว  ประเภทบทความ
จุดมุ่งหมายในการแต่ง
เพื่อแสดงพระราชดำริเกี่ยวกับบทกวีของไทยและบทกวีจีน
ซึ่งกล่าวถึงชีวิตและความทุกข์ของชาวนา
ความเป็นมา
ทุกข์ของชาวนาในบทกวี  มีที่มาจากหนังสือรวมบทพระราชนิพนธ์
ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี  เรื่อง  มณีพลอยร้อยแสง
ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้จัดพิมพ์ขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2533  ในวโรกาสที่พระองค์
ทรงเจริญพระชนมายุครบ 3 รอบ  โดยนิสิตคณะอักษรศาสตร์  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  รุ่นที่ 41
พระราชนิพนธ์นั้นแสดงให้เห็นแนวพระราชดำริเกี่ยวกับบทกวีของไทยและจีนที่กล่าวถึงชีวิต
และความทุกข์ของชาวนาที่มีสภาพชีวิตไม่ได้แตกต่างกันนัก
                                                            "เปิบข้าวทุกคราวคำ                     จงสูจำเป็นอาจิณ
                                                       เหงื่อกูที่สูกิน                                      จึงก่อเกิดมาเป็นคน
                                                           ข้าวนี้น่ะมีรส                                   ให้ชนชิมทุกชั้นชน
                                                       เบื้องหลังสิทุกข์ทน                            และขมขื่นจนเขียวคาว
                                                           จากแรงมาเป็นรวง                          ระยะทางนั้นเหยียดยาว
                                                       จากกรวงเป็นเม็ดพราว                        ส่วนทุกข์ยากลำเค็ญเข็ญ
                                                           เหงื่อหยดสักกี่หยาด                       ทุกหยดหยาดล้วนยากเย็น
                                                       ปูดโปนกี่เส้นเอ็น                                 จึงแปรรวงมาเปิบกิน
                                                           น้ำเหงื่อที่เรื่อแดง                            และน้ำแรงอันหลั่งริน
                                                       สายเลือดกูท้งสิ้น                                ที่สูชดกำชาบฟัน"

ความซื่อสัตย์

หลักธรรมสำหรับพัฒนาตนเอง ให้มีความซื่อสัตย์ สุจริต และยุติธรรม


1. บอกความหมายของคำว่าซื่อสัตย์ สุจริต และยุติธรรม ได้ถูกต้อง
2. อธิบายความต้องการและความจำเป็นของสังคมไทยที่ต้องมีสมาชิกของสังคมที่มีตวามซื่อสัตย์ สุจริต แลยุติธรรม ได้อย่างมีเหตุผล
3. บอกหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนาที่สามารถนำไปใช้ปฏิบัติสำหรับตนเองให้มีความซื่อสัตย์ สุจริต และยุติธรรม ได้ถูกต้อง
4. ระบุข้อปฏิบัติของหลักธรรมสำหรับพัฒนาตนเองให้มีความซื่อสัตย์ สุจริต และยุติธรรมได้อย่างชัดเจนและถูกต้องครบถ้วน

ขอขอบคุณwww.suwalaiporn.com ที่ให้ข้อมูลอ้างอิง

ตัวชี้วัด ท 31101 ภาษาไทย

ตัวชี้วัด

1.อ่านออกเสียงร้อยแก้วร้อยกรองให้ถูกต้อง
2.ตีความแปลความและขยายความที่อ่านออกได้
3.วิเคราะห์วิจารณาเรื่องที่อ่านได้อย่างมีเหตุผล
4.ประเมินค่าและนำความรู้ความคิดจากเรื่องที่อ่านนำมาใช้จากเรื่องที่อ่านได้
5.วิเคราะห์วิจารณาเสนอความคิดใหม่ได้อย่างมีเหตุผล
6.ตอบคำถามเรื่องที่อ่านได้
7.มีมารยาทในการอ่าน
8.เขียนสื่อสารได้ตามวัตถุประสงค์โดยใช้ภาษาเรียบเรียงถูกต้อง สาระสำคัญชัดเจน
9.เขียนเรียงความได้
10.เขียนย่อความจากสื่อต่างๆได้
11.ผลิตงานเขียนของตัวเองอ่านได้
12.ประเมินงานเขียนของผู้อื่นและนำมาพัฒนาเขียนของตัวเองได้
13.เขียนรายงานการศึกษาค้นคว้าเชิงวิชาการ และใช้ข้อมูลสารสนเทศอ้างอิงได้ถูกต้อง
14.บันทึกการศึกษาค้นคว้าเพื่อนำไปพัฒนาตนเองได้
15.มีมารยาทในการเขียน
16.ประเมินเรื่องที่ฟังและดูแล้วนำไปประยุกต์ใช้ได้ในชีวิตจริง
17.มีวิจารณาญาณในที่เลือกและดู
18.พูดในโอกาสต่างๆพูดแสดงทัศนะโต้แย้งโน้มน้วม แสดงความคิดเห็นใหม่ด้วยการที่พูด
19.มีมารยาทในการฟังและการดูและการพูด
20.แต่งบทร้อยกรองได้ถูกต้องและเหมาะสม
21.วิเคราะห์ทัศนะของภาษาต่างประเทศได้
22.อธิบายวิเคราะห์หลักการสร้างคำในภาษาไทยได้
23.วิเคราห์ประเมินการใช้ สิ่งพิมพ์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์
24.วิเคาระห์วิจารณาวรรณคดีวรรณกรรมหลักตามวิจารญาณเบื้องต้นได้
25.วิเคาระห์ลักษณะเด่นของวรรณคดีเชื่อมโยงการเรียนรู้ต่อประวัติศาสตร์
26.ประเมินคุณค่าด้านวัฒนธรรมได้
27.สังเคราะห์ข้อคิดจากวรรณคดีวรรณกรรมและนำไปประยุกต์ใช้จริงได้
28.ท่องจำและบอกคุณค่าบทอาขยานที่มีคุณค่าและนำไปใช้อ้างอิงได้